• Energy Research
• Transport Research close

The Regulation (EC) No 510/2011 requires Member States to record information for each new van registered in its territory. Every year, each Member State shall submit to the Commission all the information related to their new registrations. In particular, the following details are required for each new van registered: manufacturer name, type approval number, type, variant, version, make and commercial name, specific emissions of CO2, mass of the vehicle, wheel base, track width, fuel type and fuel mode. Additional information, such as engine power and engine capacity were also submitted.

Three data files are provided for Case Study 1 in the openENTRANCE project: Full_potential.V9.csv, metaData.Full_Potential.csv, and acheivable_NUTS2_summary.csv. The data covers 10 residential devices on the NUTS2 level for the EU27 + UK +TR + NO + CH from 2020-2050. The devices included are storage heater, water heater with storage capabilitites, air conditiong, heat circulation pump, air-to-air heat pump, refreigeration (includes refrigerators and freezers), dish washer, washing machine, and tumble drier. Full_potential.V9.csv shows the NUTS2 level unadjusted loads for residential storage heater, water heater, air conditiong, circulation pump, air-to-air heat pump, refreigeration (includes refrigerators and freezers), dish washer, washing machine, and tumble drier using representative hours from 2020-2050. The loads provided here have not been adjusted with the direct load participation rates (see paper for more details). More details on the dataset can be found in the metaData.Full_Potential.csv file. The acheivable_NUTS2_summary.csv shows the NUTS2 level acheivable direct load control potentials for the average hour in the respective year (years - 2020, 2022,2030,2040, 2050).

These files must be understood in relation to the main text. EV2ndlife_workbook.m - Matlab code containing all input data and methodology used to generate and plot results. EV2ndlife_alldata.xlsx - data generated by the above Matlab code, whose plots are included as figures in the main text and Supplementary Information. BEV_PHEV_salesdata.xlsx - sales data of BEVs and PHEVs broken down by make/model for years 2013-2016, copied from the website EV Volumes, and their use in calculating the average EV battery capacity in years 2013-2016.

A 2016 Honda Civic with a 4-cylinder 1.5-liter L15B7 turbocharged engine and continuously variable transmission (CVT) was benchmarked. The test method involved installing the engine and its CVT in an engine dynamometer test cell with the engine wiring harness tethered to its vehicle parked outside the test cell. Engine and transmission torque, fuel flow, key engine temperatures and pressures, and onboard diagnostics (OBD)/CAN bus data were recorded. The paper published as part of this work documents the test results for idle, low, medium and high load engine operation, as well as motoring torque, wide-open throttle torque and fuel consumption during transient operation using both EPA Tier 2 and Tier 3 test fuels. Particular attention is given to characterizing enrichment control during high load engine operation. Results have been used to create complete engine fuel consumption and efficiency maps and estimate CO2 emissions using EPA’s ALPHA full vehicle simulation model, over regulatory drive cycles. Within the published paper, the design and performance of the 1.5-liter Honda engine are compared to several other past, present, and future downsized-boosted engines and potential advancements were evaluated.

The main objective of this Sternfahrt-8, from 10th to 16th September 2021, was to assess the temporal variance of oceanographic real time data in the Elbe influence area of the German Bight (North Sea). Therefore, the participating Ships should repeat the same tracks for four days (see map). One ship (RV Uthörn) covered the western part between Cuxhaven and Heligoland, the second ship (RV Littorina) went to the northern part between Heligoland and Büsum and the third vessel (RV Ludwig Prandtl) should have covered the middle part of the study area, but due to vandalism damage it could not participate on the cruise. During the whole cruise chemical and physical data were recorded continuously along the tracks. Additionally, discrete water samples were taken on six stations along the way for further analysis in the laboratory. The latter data is not included in the present dataset, and can be accessed via https://doi.pangaea.de/10.1594/PANGAEA.963455. For more information about the MOSES campaign and the "Sternfahrten" cruises see article cited in references.

ปัญหามลพิษทางอากาศและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศซึ่งมีสาเหตุจากการปล่อยไอเสียของเครื่องยนต์อากาศยานเป็นปัญหาสำคัญที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน เนื่องจากปริมาณการขนส่งระหว่างภายในประเทศและระหว่างประเทศมีแนวโน้มสูงมากขึ้น อีกทั้งปัญหาดังกล่าวส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทั้งในระดับประเทศและระดับโลก ประเทศไทยในฐานะรัฐภาคีแห่งอนุสัญญาว่าด้วยการบินพลเรือนระหว่างประเทศจึงต้องร่วมมือกับรัฐภาคีอื่น ในการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมจากการปล่อยไอเสียของเครื่องยนต์อากาศยาน โดยนำมาตรการที่องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศพัฒนาขึ้นภายใต้อนุสัญญาว่าด้วยการบินพลเรือนระหว่างประเทศซึ่งประกอบไปด้วยมาตรฐานและวิธีปฏิบัติที่แนะนำระหว่างประเทศซึ่งรวบรวมอยู่ในภาคผนวกแห่งอนุสัญญาฯ ฉบับที่ 16 ว่าด้วยการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม เล่มที่ 2 การปล่อยไอเสียของเครื่องยนต์อากาศยานและมาตรการที่อาศัยกลไกทางเศรษฐกิจระดับสากล มาบังคับใช้ภายในประเทศ วิทยานิพนธ์นี้มีวัตถุประสงค์ในการศึกษาและวิเคราะห์ว่าประเทศไทยได้ปฏิบัติตามพันธกรณีในการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมจากการปล่อยไอเสียของเครื่องยนต์อากาศยานภายใต้อนุสัญญาว่าด้วยการบินพลเรือนระหว่างประเทศครบถ้วนหรือไม่ อย่างไร ปัญหาทางกฎหมายและข้อจำกัดของมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมจากการปล่อยไอเสียของเครื่องยนต์อากาศยานซึ่งองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศพัฒนาขึ้นภายใต้อนุสัญญาว่าด้วยการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ตลอดจนแนวทางการรับรองมาตรการที่อาศัยกลไกทางเศรษฐกิจระดับสากลของประเทศไทยจากการศึกษาพบว่า1)มาตรฐานและวิธีปฏิบัติที่แนะนำระหว่างประเทศซึ่งรวบรวมอยู่ในภาคผนวกแห่งอนุสัญญาว่าด้วยการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ฉบับที่ 16 ว่าด้วยการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม เล่มที่ 2 การปล่อยไอเสียของเครื่องยนต์อากาศยาน มีสถานะเป็นข้อมติขององค์การระหว่างประเทศ และโครงการตรวจสอบการกำกับดูแลความปลอดภัยการบินสากลซึ่งเป็นมาตรการขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศในการบังคับใช้มาตรฐานฯ กับรัฐภาคีแห่งอนุสัญญาฯ ไม่ได้ตรวจสอบวิธีปฏิบัติของรัฐภาคีในการรับรองมาตรฐานการระบายเชื้อเพลิงและการปล่อยไอเสียของเครื่องยนต์อากาศยาน รวมถึงการยอมรับการรับรองมาตรฐานดังกล่าวโดยรัฐภาคีอื่น ตามภาคผนวกแห่งอนุสัญญาฯ ฉบับที่ 16 เล่มที่ 22)ประเทศไทยปฏิบัติตามมาตรฐานและวิธีปฏิบัติที่แนะนำระหว่างประเทศซึ่งรวบรวมอยู่ในภาคผนวกแห่งอนุสัญญาฯ ฉบับที่ 16 เล่มที่ 2 ยังไม่ครบถ้วน โดยพระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ. 2497 ไม่ได้กำหนดให้ระบุมาตรฐานการระบายเชื้อเพลิงและการปล่อยไอเสียของเครื่องยนต์อากาศยาน และรายละเอียดอื่น ๆ ในใบรับรองแบบอากาศยานหรือใบรับรองแบบเครื่องยนต์อากาศยาน ไม่ได้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการยกเว้นการใช้มาตรฐานการปล่อยไอเสียกับเครื่องยนต์อากาศยานบางรุ่น และไม่ได้ให้อำนาจผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยในการยอมรับการยกเว้นการใช้มาตรฐานการปล่อยไอเสียกับเครื่องยนต์อากาศยานบางรุ่นโดยรัฐภาคีอื่น ตามภาคผนวกแห่งอนุสัญญาฯ ฉบับที่ 16 เล่มที่ 2 3) พนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 ไม่สามารถออกคำสั่งห้ามใช้อากาศยานซึ่งปล่อยมลพิษทางอากาศเกินกว่ามาตรฐานที่กำหนดตามพระราชบัญญัติส่งเสริมฯ และสั่งให้อากาศยานหยุดเพื่อตรวจสอบ หรือเข้าไปในอากาศยานหรือกระทำการใด ๆ ที่จำเป็น เพื่อตรวจสอบเครื่องยนต์และอุปกรณ์ของอากาศยาน และกำหนดบทลงโทษแก่ผู้ฝ่าฝืนคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ เนื่องจากยังไม่มีการประกาศมาตรฐานควบคุมมลพิษทางอากาศยานจากอากาศยานตามพระราชบัญญัติส่งเสริมฯ4)ประเทศไทยควรรับรองมาตรการที่อาศัยกลไกทางเศรษฐกิจระดับสากลที่องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศพัฒนาขึ้น เนื่องจากส่งผลดีต่อประเทศไทยทั้งในด้านเศรษฐกิจและการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม เช่น ป้องกันการกีดกันทางการค้า ลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นต้นเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ประเทศไทยควรเสนอให้องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศปรับปรุงคำถามที่ใช้ในการตรวจสอบการปฏิบัติตามมาตรฐานฯ ในภาคผนวกแห่งอนุสัญญาฯ ฉบับที่ 16 เล่มที่ 2 ของรัฐภาคี ภายใต้โครงการตรวจสอบการกำกับดูแลความปลอดภัยการบินสากล และประเทศไทยควรแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ. 2497 เพื่อให้มาตรการทางกฎหมายของประเทศไทยสอดคล้องกับบทบัญญัติของภาคผนวกแห่งอนุสัญญาฯ ฉบับที่ 16 เล่มที่ 2 นอกจากนี้ ประเทศไทยควรประกาศใช้มาตรฐานการควบคุมมลพิษจากอากาศยานตามพระราชบัญญัติส่งเสริมฯ เพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมฯ สามารถออกคำสั่งห้ามใช้อากาศยานซึ่งปล่อยมลพิษทางอากาศเกินกว่ามาตรฐานที่กำหนด และสั่งให้อากาศยานหยุดเพื่อตรวจสอบ หรือเข้าไปในอากาศยานหรือกระทำการใด ๆ ที่จำเป็น เพื่อตรวจสอบเครื่องยนต์และอุปกรณ์ของอากาศยาน และกำหนดบทลงโทษแก่ผู้ฝ่าฝืนคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ ตลอดจนปรับปรุงนโยบายและออกกฎหมาย เพื่อรับรองมาตรการที่อาศัยกลไกทางเศรษฐกิจระดับสากล

Introduction. The article presents an analysis of researches on the operation of public transport vehicles with an electric drive. Electric buses have been tested in megacities, and despite the advantages, problems were identi- fied both in the selection of the charging type, technological features and with the availability and operation of the charging infrastructure. The operation process is associated with a number of technical restrictions, which in prac- tice make it difficult to select routes for the electric bus operation. The aim of the study is to develop an algorithm for selecting a rational regular urban route for the electric bus operation and to test it on the example of the route network of Tyumen.Materials and methods. A structural diagram of the factors influencing the selection of the route for the electric bus operation has been formed. As a result of processing expert assessments, the most significant factors were identified. The diagram of the interconnections of these factors is identified and limitations for the algorithm are for- mulated based on the theory of systems analysis. The algorithm for selecting the rational regular urban route for the electric bus operation has been developed. It enables creating the simulation model for selecting a rational regular urban route for the operation of an electric bus.Results. The diagram of factors influencing the selection of a rational regular urban route for the operation of an electric bus, taking into account their mutual relations, has been formed. The algorithm and simulation model for se- lecting a rational regular urban route for the operation of an electric bus has been developed. Several urban routes in Tyumen were assessed for the rationality of the introduction of electric buses.Discussion and conclusions. Evaluation of five regular urban routes in Tyumen using the developed algorithm and the simulation model revealed three rational routes, and also showed the inefficiency of the other two. It due to the discrepancy between the duration of the charging session and breaks in operation, as well as the insufficient charge level of the traction battery to ensure the required autonomous movement of the vehicle. In the course of the continuation of these studies, the developed algorithm will be supplemented with the stage of economic assess- ment of routes for the operation of electric buses.

This research presents a 100% renewable energy (RE) scenario by 2050 with a high share of electric vehicles on the grid (V2G) developed in Ecuador with the support of the EnergyPLAN analysis tool. Hour-by-hour data iterations were performed to determine solutions among various features, including energy storage, V2G connections that spanned the distribution system, and long-term evaluation. The high participation in V2G connections keeps the electrical system available; meanwhile, the high proportions of variable renewable energy are the pillar of the joint electrical system. The layout of the sustainable mobility scenario and the high V2G participation maintain the balance of the electrical system during most of the day, simplifying the storage equipment requirements. Consequently, the influence of V2G systems on storage is a significant result that must be considered in the energy transition that Ecuador is developing in the long term. The stored electricity will not only serve as storage for future grid use. Additionally, the V2G batteries serve as a buffer between generation from diversified renewable sources and the end-use stage.

Car-sharing services are developing at an ever-increasing pace. Taking into account the reduction of carbon dioxide emissions and pursuit of the sustainable development of transport, implementing electric cars in car-sharing fleets is being proposed. On the one hand, these types of vehicles are referred to as emission-free, but on the other hand, their environmental friendliness is questionable due to the emission of carbon dioxide during the production of energy to power them. Although many scientific papers are devoted to the issue of reducing emissions through car sharing, there is a research gap concerning the real production of carbon dioxide by car-sharing vehicles during car-sharing trips. To fill this research gap, the objective of the article was to analyze the actual level of carbon dioxide emissions from combustion and electric vehicles from car-sharing systems produced when renting rides. The test results showed that the electric car turned out to be significantly less emitting. The use of electric vehicles in car-sharing fleets can reduce carbon dioxide emissions from 14% to 65% compared to using cars with internal combustion engines. However, the key role during car-sharing trips is played by the driving style of the drivers, which has been omitted from the literature to date. This should be properly regulated by service providers and focus on the proper use of energy from electric vehicle batteries, especially at low temperatures. The article provides support for operators planning to modernize their fleet of vehicles and fills the research gap concerning car-sharing emissions.